เกษตรผสมปลูกแล้วกินกินแล้วปลูก

เกษตรผสมผสานปลูกแล้วกินกินแล้วปลูก เลี้ยงสัตว์แบบง่ายๆ

วันพุธที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2560

E M (อี เอ็ม) คือ อะไร

ก่อนอื่นเรามารู้จักที่มาของ EM  กันก่อนนะครับ
ศ.ดร.เทรูโอะ ฮิหงะแห่งมหาวิทยาลัยริวกิว ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกบั เรื่องส้ม แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาโรคระบาดในสวนส้มได ้ แม้ว่าะพยายามใช้ความรู้ ความสามารถเพียงใดก็ไม่ ได้ผล จนได้รับโอกาสไปร่วมงานเปิดพิพิธภณัฑ์ศิลปะของท่านโมกิจิโอกาดะ(เมซุ ซามะ) เกิดความสนใจ หนังสือเล่มหนึ่งของท่านโมกิจิโอกาดะเขียนไว้เกี่ยวกับการเกษตร ธรรมชาติมีข้อความที่น่าสนใจหลายเรื่อง เช่น
• การเกษตรที่ปลอดสารเคมี
• ภัยพิบัติของมนุษย์ชาติและธรรมชาติของโลก
• ความรักของธรรมชาติต่อสรรพสิ่งในธรรมชาติของโลก
• สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ในดินมีความสำคัญต่อสิ่งมีชีวิตทั้งมวล

ท่าน ศ.ดร.ทารูโอะ ฮิหงะแห่งมหาวิทยาลัยริวกิวโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ได้เริ่มการค้นคว้า เมื่อ พ.ศ. 2510 และได้ค้นพบสิ่งมีชีวิตในดินที่เรียกว่าจุลินทรีย์ เมื่อ พ.ศ.2525 เป็นการค้นพบเทคนิคการใช้ E.M. (Effective Microorganisms)กลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ ความสำคัญ ณ จุดนี้คือได้ค้นพบการทำงานของจุลินทรีย์ในธรรมชาติแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ
 1. ทำงานแบบสร้างสรรค์เรียกว่ากลุ่มจุลินทรีย์สร้างสรรค์มีประมาณ10 %
 2. ทำงานแบบเป็นกลาง เรียกว่ากลุ่มเป็นกลางคอยเกื้อหนุน 2 ฝ่ายแรก ทีมีจำนวนมากถึงประมาณ 80 %  3. ทำงานแบบทำลายหรือกลุ่มจุลินทรีย์โรค มีประมาณ 10 %

“กลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ” มีจุลินทรีย์ รวมอยู่5 แฟมิลี่10 จีนัส 80 สปีชีส์ในที่นี้จะมีทั้งจุลินทรีย์ที่ต้องการอากาศคือแอโรบิค แบคทีเรีย (Aerobic Bacteria)และจุลินทรีย์ที่ไม่ต้องการ อากาศคืออนาโรบิค แบคทีเรีย (Anaerobic bacteria)


                               สารเร่งสำหรับใช้ทำEM
                                       
E M (อี เอ็ม)
เป็นการรวมกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพมาบรรจุในภาชนะเดียวกันมีจุลินทรีย์รวมอยู่5 แฟมิลี่10 จีนัส 80 สปีชีส์เพื่อนำไปใช้งานแบ่งออกเป็ น 5 กลุ่มคือ
 1. กลุ่มจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง (Photosynthetic bacteria)
2. กลุ่มจุลินทรีย์ผลิตกรดแลคติก(Lactic acid bacteria)
3. กลุ่มจุลินทรีย์ตรึงไนโตเจน (Nitrogen fixing bacteria)
4. กลุ่มจุลินทรีย์แอคทิโนมัยซีทส์ (Actenomycetes)
5. กลุ่มจุลินทรีย์ยิสต์(Yeasts)
ลักษณะทั่วไปของ EM
1. เป็นของเหลวมีสีน้ำตาลแก่ กลิ่นอมเปรี้ยว อมหวาน
2. เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีชีวิตและไม่สามารถใช้ร่วมกับสารเคมียาปฏิชีวนะและยาฆ่าเชื้อต่างๆได ้
3. ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งที่มีชีวิต เช่น คน สตัว์ พืช และแมลงที่เป็นประโยชน ์
4. ช่วยปรับสภาพความสมดุลของสิ่งที่มีชีวิตและสิ่งแวดล้อม
5. เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่ทุกคนสามารถนา ไปเพาะขยาย เพื่อช่วยแก้ปัญหาต่างๆได้ด้วยตนเอง
6. หัวเชื้อ EM สามารถเก็บรักษาไว้ได้ประมาณ 6 เดือนที่อุณหภูมิปกติที่ 25-45 องศาเซลเซียส โดยปิดฝาให้สนิทอย่าให้อากาศเข้า และอย่าเก็บไว้ในตู้เย็นทุกคร้ังที่นำออกมาใช้จะต้องรีบปิดฝาให้สนิท การขยาย EM ควรใช้ภาชนะและน้ำที่สะอาดและใช้ให้หมดในเวลาที่เหมาะสม
7. ในกรณีที่เก็บไว้หลายวันโดยไม่มีการเคลื่อนไหวในภาชนะจะมีฝ้าขาวๆเหนือผิวน้ำเป็นการพักตัวของเชื้อ เมื่อเข่ยาทิ้งไว้ฝ้าสีขาวก็จะหายเป็นปกติ


                           EMสำเร็จรูปหาซื้อได้ตามร้านเกษตร
ประโยชน์ของ EM ในด้านปศุสัตว์
1. ช่วยกาจดักลิ่นเหมน็จากฟาร์มปศุสตัว์ภายใน 24 ชม.
2. ช่วยบำบัดน้ำเสียจากฟาร์มได้ใน 1-2 สัปดาห์
3. ช่วยป้องกันโรคระบาดต่างๆในสตัว์แทนยาปฏิชีวนะและอื่นๆได ้
4. ช่วยกำจัดแมลงวันด้วยการตัดวงจรชีวิตของหนอนแมลงวันไม่ให้เข้าดักแด้เกิดเป็นแมลงวัน
5. ช่วยเสริมสุขภาพสัตว์เลี้ยง ทำให้สตัว์แข็งแรง มีความต้านทานต่อโรค ให้ผลผลิตสูง และอัตราการตายต่ำ

                   EMที่เรานำมาหมักแล้วหรือที่เราเรียกกันว่าน้ำหมักชีวะภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น